ฝุ่น

ฝุ่น
Leemupai

วันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับศสานาซิกข์




เกร็ดความรู้เกี่ยวกับศสานาซิกข์

พิธีมงคลสมรสของชาวซิกข์กระทำโดยไม่คำนึงถึงวรรณะ ตระกูล และชาติกำเนิดของคู่สมรส ชาวซิกข์จะประกอบพิธีสมรสตามพิธี อนันการัช ซึ่งมีขั้นตอนและหลักการตามศาสนวินัยของซิกข์ ดังนี้....

การแต่งงานในวัยเด็กทั้งชายและหญิงเป็นสิ่งต้องห้ามเมื่อสตรีชาวซิกข์มีความพร้อมทั้งทางบุคลิก ร่างกาย และจิตใจ ก็สมควรจะหาคู่สมรสที่เหมาะสม เพื่อทำการสมรสตามพิธีอนันด์การัชสตรีซิกข์ควรสมรสกับบุรุษซิกข์การสมรสตามพิธี ไม่จำเป็นต้องมีพิธีหมั่นก่อน ถ้ามีความประสงค์ที่จะประกอบพิธีหมั่น ให้ฝ่ายหญิงกำหนดวันเพื่อชุมนุมเจริญธรรม แล้วทำการสวดอัรดาสต่อหน้าพระพักตร์พระมหาคัมภีร์คุรุครันถ์ ซาฮิบ แล้วมอบกรีปาน การ่า และขนมหวาน ให้แก่ชายผู้เป็นคู่หมั่นการกำหนดวันมงคลสมรส ให้กำหนดวันเวลาตามความเหมาะสมและสะดวกของทั้งสองฝ่าย ไม่มีการกำหนดฤกษ์ เนื่องจากเป็นสิ่งต้องห้ามในศาสนาซิกข์ห้ามการประกอบพีธีกรรมหรือกระทำต่อไปนี้ การปกปิดใบหน้า สวมดอกไม้บนศีรษะ สวมเครื่องประดับบนศีรษะ ห้ามการเสพของมึนเมาใน

พิธีมงคลสมรส และการกระทำอื่น ๆ ที่งมงายไร้สาระการจัดพิธีมงคลสมรสของชาวซิกข์ ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมพอเพียง ไม่ให้เป็นภาระแก่ฝ่ายใด เริ่มจากจัดให้มีการชุมนุมเจริญธรรมต่อหน้าพระมหาคัมภีร์คุรุครันถ์ซาฮิบ และมีการขับร้องบทสวดภาวนาโดยสังคีตจารย์ หรือศาสนิกชนทั้งหมดที่มาร่วมเจริญธรรม พร้อมจัดให้คู่บ่าวสาวมานั่งต่อหน้าพระมหาคัมภีร์คุรุครันถ์ซาฮิบ เจ้าสาวจะนั่งด้านซ้ายมือของเจ้าบ่าว แล้วขออนุญาตเริ่มประกอบพิธีจากศาส

นิกชนที่มาร่วมชุมนุมเจริญธรรมและสังคีตจารย์ขับร้องบทสวดเพื่อขอพรจากพระศาสดา แล้วกล่าวเชิญให้คู่สมรส และบิดามารดาหรือผู้ปกครองของคู่สมรสลุกขึ้นยืน สวดอัรดาสขอพรจากพระมหาคัมภีร์ คุรุครันถ์ซาฮิบเพื่อจะดำเนินพิธีอนันด์การัช หลังจากนั้น ศาสนาจารย์จะอบรมสั่งสอนและแนะนำอธิบายหน้าที่ ข้อปฏิบัติในการดำรงชีวิตการครองเรือนตามแนวทางของศาสนวินัย และข้อบัญญัติของศาสดาขั้นต้นจะอบรมทั้งคู่บ่าวสาวให้เข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา โดยเปรียบเทียบกับความรักความผูกพันอันบริสุทธิ์ของดวงจิตของมนุษย์แต่ละคนที่มีต่อ

พระผู้เป็นเจ้าตามบทสวด ลาว่าห์(บทสวดที่ใช้ในการประกอบพิธีมงคลสมรส)ศาสนาจารย์จะอธิบายถึงความรักและความผูกพันของคู่สมรสที่มีต่อกันดุจดังมีจิตเดียวในสองร่างตลอดจนศรัทธาและเข้าถึง อกาลปุรัค(พระผู้เป็นเจ้า)โดยใช้ชีวิตอย่างผู้ครองเรือนและสามารถนำพาชีวิตคู่ให้ดำเนินได้อย่างราบรื่นตามแนวทางอันบริสุทธิ์แห่งพระธรรมคำสอนของพระศาสดา พร้อมกับอธิบายถึงหน้าที่และความรับผิดชอบในการครองเรือนของแต่ละฝ่าย

ศาสนาจารย์จะกล่าวให้เจ้าบ่าวทราบว่าทางครอบครัวของเจ้าสาวได้เลือกเขาเป็นผู้ที่เหมาะสมที่จะเป็นคู่ครองของเธอ ดังนั้น ในทุกโอกาสเขาต้องให้ความรักและร่วมทุกข์ร่วมสุข ต้องมั่นคง ซื่อสัตย์ ปกป้อง และคุ้มครองในเกียรติเธอและร่างกายของเธอ ปฏิบัติต่อเธอประดุจเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขา ให้ความเคารพและให้เกียรติบิดามารดาตลอดจนญาติมิตรของเธอเสมือนหนึ่งของตนเองศาสนาจารย์จะกล่าวให้เจ้าสาวทราบว่าโดยพิธีสมรสที่กระทำต่อหน้าพระพักตร์ของพระศาสดาคุรุครันถ์ซาฮิบและสังคัต (ศาสนิกชนที่มาร่วมชุมนุมเจริญธรรม) ได้มอบเธอให้อยู่ในความดูแลของเจ้าบ่าว ขอให้เธอจงมอบความรักและความไว้วางใจทั้งปวงแก่เขา ร่วมทุกข์ ร่วมสุขในทุกโอกาส ต้องมั่นคงและซื่อสัตย์ต่อเขา รับใช้เขาในทุกแห่งหน ทุกสถานะ ให้ความเคารพและให้เกียรติบิดามารดาตลอดญาติมิตรของเขาเสมือน

หนึ่งของตนคู่บ่าวสาวหลังจากรับคำสั่งสอนแล้ว ทำความเคารพโดยการกราบให้หน้าผากจรดพื้นต่อหน้าพระพักตร์ศาสดาคุรุครันถ์ซาฮิบ จากนั้นบิดาหรือญาติผู้ใหญ่ของเจ้าสาวนำชายผ้า บัลล่า ผ้าแพรสีชมพูยาวประมาณ 2.5 เมตร เป็นสัญลักษณ์ว่าบิดาฝ่ายหญิงได้มอบภาระการดูแลฝ่ายหญิงให้แก่ฝ่ายชายโดยสมบูรณ์ข้างหนึ่งมาใส่ในมือของเจ้าบ่าว แล้วนำอีกปลายหนึ่งพาดเหนือไหล่ขวาของเจ้าบ่าวไปมอบใส่มือให้

เจ้าสาวถือไว้ สังคีตจารย์จะขับร้องบทสวด หลังจากนั้นศาสนาจารย์ที่นั่งอยู่บนแท่นประทับจะเริ่มอ่านบทสวด ลาว่าห์ ซูฮีมฮัลล่า 4 บทสวดของพระศาสดาองค์ที่ 4 คู่บ่าวสาวจะกราบกับพื้นแล้วลุกขึ้นยืนฟังบทสวดลาว่าห์นี้หลังจากสวดบทลาว่าห์เสร็จแต่ละบท เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะกราบลงกับพื้น แล้วเจ้าบ่าวจะเดินนำหน้าเจ้าสาว โดยเจ้าสาวจับชายผ้าบัลล่าข้างหนึ่งไว้เดินตามเจ้าบ่าวเวียนขวารอบแท่นประทับ{พระมหาคัมภีร์คุรุครันถ์ซาฮิบ}ในขณะที่เดินแต่ละรอบนั้นสังคีตจารย์หรือศาสนิก ชนที่มาชุมนุมก็จะเริ่มขับร้องบทสวด ลาว่าห์ เมื่อเดินครบแต่ละรอบ คู่บ่าวสาวกราบลงกับพื้นแล้วลุกขึ้นยืนเพื่อรับฟังบทสวดลาว่าห์บทต่อไป เมื่อเดินครบสี่รอบแล้ว คู่บ่าวสาวก็จะนั่งลงกราบกับพื้น แล้วสังคีตจารย์จะขับร้องบท

สวดอนันด์ซาฮิบห้าบทแรกและบทสุดท้าย จากนั้นมีการสวด{อัรดาส}แล้วป่านขอประทานพระบัญชาจาก พระมหา{คัมภีร์คุรุครันถ์ซาฮิบ}เป็นอันเสร็จพิธีสมรสอนันด์การัช สุดท้ายจะมีการแจกขนมหวานคาร่าปัรซาดแก่ศาสนิกชนที่มาร่วมพิธีทุกท่านโดยเสมอภาคห้ามชาวซิกข์ใช้สินสอดเป็นเงื่อนไขในการเลือกคู่สมรสถ้าคู่สมรสของหญิงใดสิ้นชีพลง หากหญิงนั้นมีความประสงค์จะสมรสใหม่ก็สามารถสมรสกับผู้ที่เหมาะสมได้ ในทำนองเดียวกับฝ่ายชายก็สามารถสมรสใหม่ได้ ในกรณีที่ภรรยาสิ้นชีพลงให้ใช้หลักเดียวกันโดยทั่วไปแล้ว ขณะที่ภรรยาหรือสามีคนแรกยังมีชีวิตอยู่ ชาวซิกข์ไม่ควรกระทำการสมรสใหม่ชาวซิกข์ที่รับอมฤตแล้ว ควรให้ภรรยาหรือสามีของตนรับอมฤตด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น